วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แสดงพระธรรมเทศนา



                                                       วัดพรมศิลาแตล  ต.แตล  อ.ศีขรภูมิ  จ.สุรินทร์

 นะโม  ตัสสะ  ภะคะวะโต  อะระหะโต  สัมมาสัมพุทธัสสะ  นะโมตัสสะ
ภะคะวะโต  อะระหะโต  สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม  ตัสสะ  ภะคะวะโต
อะระหะโต
สัมมาสัมพุทธัสสะ
สัพพะทานัง  ธัมมะทานัง  ชินาติ.........
                  โอกาสบัดนี้อาตมาภาพจักได้แสดงพระธรรมเทศนาเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่พุทธบริษัททั้งหลาย  ผู้สนจิตสนใจในบุญในกุศล  เคารพนอบน้อมในพระธรรมทั้งหลาย  เพื่อที่จะฆ่ากิเลสให้มันหาย  คลายกิเลสให้มันออก  สำรอกกิเลสให้มันหมด  เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจเข้าสู่นิพพาน
                กินข้าวของชาวบ้านจะมานอนเกียจคร้านไม่ได้  จะอบรมศิลธรรมไปยินดีรับใช้ชนในชาติบ้านเมือง  จะทำงานเพื่อสังคมจะอบรมสิ่งที่เป็นเรื่อง  จะไม่ยอมอยู่เปลืองข้าวสุกโยมฟรีๆๆ  ขึ้นรถหลายคันไม่เสียค่ารถสิ่งทั้งหมด  อาตมายอมรับว่าเป็นหนี้  หนี้ประชาชนในครั้งนี้  อาตมาจึงขอทำดีเพื่อสังคม  ป่านนี้ถ้าอาตมายังไม่บวชตำรวจอาจจับอาตมาหลายเรื่อง  อาตมาอาจเป็นผู้ร้ายกวนเมืองเพราะเรื่องปากเรื่องท้อง  อาตมาเป็นลูกชาวไร่ชาวนาการศึกษาน่าหม่นหมองรัฐบาลเขาไม่เหลียวมอง  อาตมาจึงบวชเรียนและนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาแนะแนวทางกับโยม
วันนี้จะมาเล่านำคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามาเล่าให้โยมฟัง  วันนี้เอาเรื่องสัตว์มาเล่าให้ญาติโยมได้ฟังกัน  ว่าคนกับสัตว์มันเป็นยังไง  วันนี้จะเล่าเรื่องสัตว์เด้อโยมเด้อ วันนี้เล่าเรื่องสัตว์ปีก  เอาเรื่องสัตว์ที่ไม่ดีก่อน  เริ่มจากที่ไม่ดีก่อน  แล้วค่อยเอาสิ่งที่ดีๆ ทีหลัง  เอา แบบละครน้อโยม  เอาแบบทุกข์ก่อน แล้วค่อยมีความสุข  เอาแบบจน ก่อน แล้วจึงมารวยทีหลัง  ถ้ารวยแล้วมาจน  เด่วมีคนมานินทา ไม่มีใครคบหรอก   ชั่วมาก่อน แล้วดีทีหลัง  ถ้าจะให้เล่าเรื่องสวรรค์นิพพานให้องค์อื่นเนาะโยม  อาตมาไม่ถนัด  เพราะไม่เคยไปสักทีไม่ใช่ว่าไม่เชื่อโยม แต่อาตมาไม่เคยไปจริงๆ  ถ้าจะเล่ากลัวเล่าผิด ตะเกอะ ตะกะ อีก   ให้องค์อื่นเล่าเนาะ  ไม่เคยไป  วันนี้เล่าเรื่องสัตว์  เอา ที่อยู่ใกล้ๆตัวเรานี่แหละ  ที่เห็นกันทุกวันนี้แหละ  จะเล่าเรื่องแมลงวันกับผึ้ง  โยมเอย  ไอ้สัตว์สองตัวนี้มันเหมือนกัน มีปีกเหมือนกันบินได้เหมือนกันมีขาเหมือนกัน  ต่างตรงที่แมลงวันไม่มีเข็มมาต่อยคน  ตัวก็เท่ากัน  ป้าดๆๆๆๆๆ  แต่การประพฤติปฏิบัติ ต่างกันราวฟ้ากับดิน โยมเอย  เด่วเอาแมลงวันก่อน   อย่างที่ไม่ดีของมันอย่างแรกคือ  


                ๑.หน้ามึน (ขี้เกียจ)มันชอบมาตอมอาหาร เราปัด เราไล่อย่างไรมันก็ไม่ไป หน้ามึนจริงๆ  โยมเอย แล้วที่บ้านละมีแมลงวันหน้ามึนไหมแมลงวันสองขานะ  ลูกแมลงวัน บอกอะไรก็หน้ามึนตึบ  ซื่อบื้อ  บอกอย่างหนึ่งไปอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง นี่ลูกแมลงวันอย่าว่าแต่คนแมลงวันเลยโยม  พระแมลงวันก็มีโยม  มึนตึบ  กลับบ้านไปสังเกตดูเด้อโยม  ว่าที่บ้านมีแมลงวันไหม
                ๒.แมลงวันไม่สามัคคีกัน  น่าจะเจียมสังขารว่าตัวเองเป็นแมลงวัน  ไม่สามัคคีเลยเด้  มีตัวเล็กตอมแกงจังหัน  ตัวใหญ่ปีกเขียว บินมาก็ทำตีกปีกใส่กัน  แหงๆๆๆๆตีกันตกลงถ้วยแกง  ตายทั้งสอง  สมน้ำหน้ามัน  นี่แมงวันไม่สามัคคีกัน  คนแมลงวันก็เช่นเดียวกัน  แม่เดียวกัน กินนมเต้าเดียวกัน  คลานตามกันมา ท้องอันเดียวกัน แทนที่จะสามัคคีกัน กลับแตกคอกัน ทะเลาะกัน  แมลงวันมันวุ่นวาย อย่าเป็นแมลงวันเด้อ ละซะ มันไม่ดี 
                ๓.แมลงวันชอบของเหม็น  เหม็นตรงไหนก็ตอมตรงนั้นแหละ  ของหอมๆๆน้ำตาลหอมๆๆ เกษรหอมๆแมลงวันไม่ตอมหรอก  เหม็นเท่าไหร่แมลงวันเข้าไปตอมและไม่รู้ตัวด้วย ว่าเหม็น  ลูกแมลงวันก็เหมือนกันเอาแต่ของเหม็นมาใส่ตัว  เอาแต่ของเหม็นมาใส่บ้าน  ดังนั้นอย่าเอาอย่างแมลงวัน เพราะมันชอบแต่ที่เหม็นๆของเหม็นๆๆ เด้อโยมเด้อ  ที่เหม็นคือที่ไม่ดี ที่มันชั่ว  อย่าเอาอย่าง เด้อ  
                ๔.แมลงวันไม่รู้จักทำรัง  อาตมาเกิดมานานแล้วไม่เคยเห็นรังแมลงวันซะที  แมลงวันไม่รู้จักทำรัง  คนเป็นแมลงวันก็เช่นเดียวกันไม่รู้จักสร้างฐานะ  สร้างรัง  สร้างฐานะในภพนี้และภพหน้ารีบสร้างเถอะโยม  อย่าเพลิด อย่าเพลิน  อย่าเพลินตามไฟแสงสี  อย่าเพลินตาม วัน เดือน ปี เลย คิดสร้างเริ่มเก็บหอมออมริบ ไว้  อย่าเป็นอย่าแมลงวัน เพราะมันไม่สร้างรวงสร้างรัง  ของมัน  

                ๕.ของดีๆเนื้อดีๆ ปลาดีๆ หมูดีๆ ให้แมลงวันไปเกาะ  ขี้ใส่เป็นหนอนจ้อย เน่า  เน่าหมด  คนเป็นแมลงวันก็เช่นกันจับอะไร หยิบอะไรก็เสีย  พ่อแม่ให้เงินให้ทองให้ไร่ให้นาเสียหมด  ทำลายหมด ขายหมด  นั่นแหละลูกแมลงวัน    ต้องพิจารณา นะโยมนะ อย่าเป็นแมลงวัน  แมลงวันมันไม่ดีเขาเกลียด เขาไม่สอนหรอก  มีแต่คนจะปราบเท่านั้น  มันคู่กับของเหม็น  นี่ฝากว่าแมลงวันมันไม่ดี    นี่เอาของไม่ดีให้ฟังก่อน  แล้วมาฟังสิ่งดีๆๆ ต่อไปนะโยม 
ผึ้ง…เป็นสัตว์พิเศษชนิดหนึ่ง ต่างจากแมลงวันราวฟ้ากับดินซึ่งทุกท่านรู้จักกันดี เพราะบางคนก็เคยกินน้ำหวานที่มีรสอร่อยของเขา หรืออาจเคยกินน้ำผึ้งกันทุกคนผึ้งมีนิสัยสะอาด มักลูบ ๆ คลำ ๆ ไต่ตอมแต่ของที่สะอาดหรือดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม ตัวผึ้งนั้นมันจะมีลักษณะพิเศษ หรือจะเรียกว่าคุณธรรมในตัวผึ้งก็ไม่ผิดที่เราควรใส่ใจ นำมาคิดและสอนใจได้อย่างดี คือ

๑. ขยันหากิน                       ๒. บินไม่สูงนัก
๓. รักความสะอาด              ๔. ฉลาดสะสม                    ๕. นิยมสามัคคี
๑. ตัวผึ้งนั้น
…ไม่มีสันดานขี้เกียจ ขยันหากินทุกวัน ถ้าตัวไหนขี้เกียจ ไม่บินออกไปหากิน จะถูกผึ้งตัวอื่นรุมต่อยจนตาย
๒. ตัวผึ้งบินไม่ต่ำนัก และก็ไม่สูงจนเกินไป นำมาคิดเป็นธรรมสอนใจคนได้คือ เกิดเป็นคนนั้น อย่ามักใหญ่ใฝ่สูงจนเกินตัว เกินฐานะ และอย่าเย่อหยิ่งจองหองพองขนยกตนข่มผู้อื่น อวดดี อวดเด่นเกินเพื่อนมนุษย์มากไป   คนเราก็เหมือนกันอย่าพูดลมสูงนัก  พูดพอดีๆ พูดลมสูงนักมันจะเตลิดหู  เพราะหูคนทำมาพอดีๆ  ไม่เหมือนหูสัตว์ นะโยม  ตั้งโด่  ยังหูกระต่าย  หูคนอยู่กลางหัวพอดี  พระพุทธพจน์ยังสอนเตือนว่า อตฺตานํ นาติวตฺเตยฺย เกิดมาเป็นคนอย่าลืมตนเย่อหยิ่ง โปรดอย่าลืมว่า ไม้สูงเกินต้น มักจะโค่นเพราะลมบน คนสูงเกินคนมักจะทนอยู่ลำบาก
 
๓. ตัวผึ้งรักความสะอาด นำมาคิดเป็นธรรมสอนใจคนก็คือ เป็นคนนั้นต้องรักความสงบเรียบร้อย จะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน จะกิน จะดื่ม ก็ต้องสะอาดเรียบร้อย จะนุ่งห่ม จะบ้วนน้ำลายคลายน้ำมูก จะถ่ายอุจจาระถ่ายปัสสาวะก็ต้องสะอาดเรียบร้อย คือเลือกทางควรหรือไม่ควรตลอดถึงที่หลับที่นอนหมอนมุ้ง ถ้วยโถโอจาน ต้องสะอาดเรียบร้อยทั้งนั้นนี้เป็นธรรมจากตัวผึ้งที่ดีวิเศษนักหนาแต่จะมีสักกี่คนหนอที่นำมาสอนใจตัวเองบ้าง
๔. ตัวผึ้งฉลาดสะสม คือสะสมอาหารและน้ำหวานไว้เลี้ยงตัวมันเองและลูกอ่อนเป็นเวลาแรมปี สะสมไว้มากมายจนเพียงพอ แถมมนุษย์เดินดินกินของไม่เลือก ยังไปปล้นอาหารและน้ำหวานของมันมา มิหนำซ้ำยังฆ่าเจ้าทรัพย์ตายเกลื่อนอย่างน่าอนาถ เราเป็นมนุษย์อย่าให้แพ้ตัวผึ้ง สะสมทรัพย์สินเงินทอง โดยการขยัน ประหยัดมัธยัสถ์รอบคอบ ในการใช้จ่าย หัดกินน้อยใช้น้อยแล้วทรัพย์สินจะได้มีส่วนเกินพอกพูนขึ้น พอกพูนขึ้นจนเหลือใช้เหลือจ่ายไปเอง
๕. ตัวผึ้งนิยมความสามัคคี ผึ้งมันจะอยู่กันเป็นฝูงเป็นหมู่เป็นคณะช่วยกันสร้างบ้านหรือรังอยู่ ช่วยกันเลี้ยงลูกอ่อน   มันจะบินไปไหนก็มีนางพญาพาบินตรงไปเลย  ไม่แยกออกจากนางพญา  เกิดเป็นคนต้องมีผู้นำ พ่อแม่เป็นผู้นำ  นำไปทางนั้นนำไปทางนี้นำไปในทางที่ถูกที่ควร  ผึ้งก็นำไปเกาะที่ดีที่ปลอดภัยลูกก็เช่นเดียวพ่อแนะอย่างไรแม่แนะอย่างไรก็ตามพ่อตามแม่นี่ลูกผึ้ง  เป็นคนต้องนำเป็นสัตว์ต้องต้อน  อย่างที่เราเลี้ยงวัวเลี้ยงควายเราต้องต้อนไปทางนั้นทางนี้ เป็ดก็เช่นเดียวกันเราต้องต้อน มันถึงจะไปนี่โยมเป็นคนต้องนำเป็ดสัตว์ต้องต้อน  ผึ้งสามัคคีกันรังหนึ่งๆมีผึ้งเป็นพันเป็นหมื่นตัวแต่มันไม่เคยต่อยกัน  ไม่เคยเกี่ยงกัน  แต่ช่วยกันหาอาหาร  หาเกสรดอกไม้มาทำรังของมัน  ตัวนั้นออก ตัวนี้เข้ามา ลมแรงเท่าไหร่ ฝนหนักเท่าไหร่รังมันก็ไม่ร่วง ไม่เปียก มันเป็นผึ้งแท้ๆ มันยังสร้างได้  แล้วเราละคนแท้ๆ  สร้างกันเถอะโยม  คนก็เช่นกัน บ้านเดียวกัน หมู่บ้านเดียวกัน สามัคคีกันเอาไว้เถอะ อย่าทะเลาะกัน  อย่าวุ่น อย่าวายกันเลย  สามัคคีกันเอาไว้  ไม่ผิดอะไรไปกับคน ตัวไหนขี้เกียจอยู่เฉยๆ ก็อยู่ในรังเดียวกับหมู่ไม่ได้

                ผึ้งมันกินอะไรมีแต่ของดีๆ  ทำอะไรก็มีแต่สิ่งดีๆ โยมเอย  น้ำผึ้งขวดละเท่าไหร่ เอามาทำยาได้อีก ผสมน้ำร้อนใส่มะนาวดื่มเป็นยาได้อีก  แม้แต่ขี้มันยังดีเลยโยม  เอาขี้ผึ้งมาทำหนวดสีปากโยมในสมัยโบราณ ไม่เชื่อถามพระปลัด ลือชาดูโยม  เอามาหุงผสมมวลสารต่างๆๆลงไป กลิ่นหอมเอามาลงคาถาพญาช้างผสมโขลง   โอมพญาลำโคลง  ช้างกินลืมลง คนกินลืมไพร   ก็เสกไปต๊วะ เป็นมหาเสน่ห์ดีนักแล  ขลังดีนัก สีปากแล้วไปพูดด้วย ถ้าเขาไม่ตามเรา  เราก็ตามเขาไปตั๊วะ ถึง จะได้  นี่แหละขี้ผึ้งมันกินของดี ทำอะไรก็ดี  ไปอยู่ตรงไหนใครก็ชอบใครก็ต้องการ  ดีถึงพระ โยม  ผึ้งไปเกาะทำรังอยู่ในบ้าน มนต์พระไปสวด พระได้ปัจจัย อีก  แมลงวันไปเกาะบ้านมีใครมนต์พระไปสวดบ้างโยม  ไม่มี  คนดีก็เช่นกันไปไหนมีแต่คนรักคนชอบ  อยากได้หน่อ อยากได้แนว  โยมได้ลูกเขย ลูกสะใภ้ ผึ้งก็ดีไป   ถ้าได้แบบแมลงวันแล้ว  แฉะแม๊ะ  อยู่นั่น  แหละ นั่งแช่ นั่น แหละ ยิ่งมีของกินดี เรื่องคุยดี ก็แช่ อยู่นั่นแหละ เสียการเสียงาน  นี่ แมลงวัน  ผึ้งละ  ไม่เคยแช่โยมพอได้เกสรปั๊บ ก็บินกลับรังทันที  ไม่เคยแช่  นี่ผึ้ง

                เราเกิดเป็นมนุษย์ ถือว่าเป็นสัตว์ประเสริฐสูงกว่าสัตว์เดรัจฉาน ร้อยเท่าพันเท่า  ลองดูการประพฤติปฏิบัติของเรานี่ ให้เปรียบเทียบเอาเอง  สิ่งที่เกิดมาบนโลกนี้มีประโยชน์กันทั้งนั้น  แม้แต่ใส้เดือน  กิ้งกือ เป็ด ไก่ ช้าง ม้า วัวควาย มันยังมีประโยชน์
ฉะนั้น…เราผู้เป็นมนุษย์ ได้คติธรรมจากตัวผึ้งแล้ว ให้นำมาคิดสอนใจตัวเองบ้าง โดยเฉพาะข้อที่ ๕ สามัคคีรักกัน รักพ่อรักแม่ รักพี่น้องปรองดองสามัคคี รักญาติพี่น้องของตัวรักเพื่อนร่วมบ้านเพื่อนร่วมโรงเรียน รักเพื่อนร่วมครูบาอาจารย์ ตลอดถึงรักเพื่อนร่วมประเทศชาติ รักประเทศชาติบ้านเมืองของตัว รักกันดีกว่าชังกัน ถึงคราวผิดพลาดรู้จักให้อภัยกัน ให้ถือคติที่ว่า รักก็อย่าไปรักทั้งหมด เหลือไว้เกลียดชังบ้าง เกลียดชังก็อย่าไปเกลียดชังทั้งหมด เหลือไว้รักบ้าง เพราะคนเรา บางเวลามันก็น่ารัก บางเวลามันก็น่าเกลียดน่าชังเหลือเกิน พยายามแบ่งใจ เตรียมใจไว้รับทั้งสองอย่าง อย่าให้รักทั้งหมด และอย่าให้เกลียดชังทั้งหมด ชีวิตจะรุ่งเรือง สังคมจักได้ร่มเย็นเป็นสุขทุกถ้วนหน้าสืบไป ที่อาตมาแสดงมาวันนี้ก็พอสรุปได้ว่า  ขี้เกียจเป็นแมลงวัน  ขยันเป็นแมลงผึ้ง  เทศนามาก็พอสมควร ด้วยอำนาจคูพระพุทธที่สูงล้ำคุณพระธรรมที่สูงส่ง  คุณพระสงฆ์ที่ล้ำค่า  ช่วยปกปักรักษาบรรดาญาติโยมที่มาร่วมกันทำบุญในวันนี้ให้มีสุขภาพที่แข็งแรง  และโชคดี โชคดี ทุกๆท่าน...เอวังก็มีด้วยประการเช่นนี้....เทอญ..
ประพันธ์และรวบรวมโดย  พระบุญมา  โชติธมฺโม 
วัดพรมศิลาแตล  ต.แตล  อ.ศีขรภูมิ  จ.สุรินทร์